1. ส่วนประกอบของตัวเครื่อง |
|
1. ปากเป่า |
2. Barrel |
3. ข้อต่อบน |
4. ข้อต่อล่าง |
5. กระเดื่อง |
6. ปากแตร |
7. ที่รัดปากเป่า |
8. คอปากเป่า |
|
2. ข้อควรระวังเป็นพิเศษ |
โดยทั่วไป Clarinet ของ YAMAHA ผลิตจากไม้ Grenadilla หรือ ในบางรุ่นผลิตจาก พลาสติก
(ABS resin) สำหรับ รุ่นที่ ผลิตจาก ไม้นั้น จะง่าย ต่อการแตกร้าว หากโดน สภาพอากาศ ที่มี
การเปลี่ยนแปลง ของอุณหภูมิ และ ความชื้น อย่างฉับพลันอยู่เสมอ ๆ ดังนั้น จึงขอแนะนำวิธี
การดูแลรักษาเครื่อง เพื่อยืดอายุการใช้งานดังนี้ |
1.ไม่ควรทิ้งเครื่องไว้กลางแดดหรือ โดนฝน หรือทิ้งเอาไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง
(ร้อน) เป็นเวลานาน ๆ
2.เช็ดเครื่องให้แห้งทันทีภายหลังใช้เครื่อง
3.สำหรับเครื่องใหม่ การเป่าครั้งแรกไม่ควรใช้เวลานาน พยายามเริ่มต้นในระยะแรก
ด้วยการใช้เวลาในการเป่าแต่ละครั้งเท่า ๆ กัน เพื่อให้เนื้อไม้ได้ปรับตัว |
3. วิธีประกอบเครื่อง |
Eb Soprano Clarinet
1.ทาขี้ผึ้งสำหรับไม้ก๊อก (Cork Grease) บริเวณข้อต่อส่วนที่เป็นไม้ก๊อกตามรูป
2.ประกอบปากแตร และ Barrel เข้ากับตัวเครื่อง
3.ประกอบปากเป่าเข้ากับ Barrel |
|
Bb และ A Clarinet
1.ประกอบ Barrel เข้ากับข้อต่อบน และ ปากแตรเข้ากับข้อต่อล่าง
2.ใช้มือซ้ายจับข้อต่อบน โดยมือขวาจับข้อต่อล่าง ค่อย ๆ หมุนจนประกอบเข้ากันได้สนิท
3.ประกอบปากเป่าเข้ากับ Barrel
4.ในการประกอบส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน พยายามหลีกเลี่ยงไม่ใช้แรงกด
กระเดื่องมากจนเกินไป |
|
Auto และ Bass Clarinet
1.ใช้มือซ้ายจับข้อต่อบน โดยมือขวาจับข้อต่อล่าง ค่อย ๆ หมุนจนประกอบกันได้สนิท
2.เสร็จแล้วประกอบคอปากเป่า และปากแตรเข้ากับตัวเครื่อง
3.เฉพาะ Bass Clarinet ให้ประกอบคอปากเป่าเข้ากับข้อต่อบน |
|
ขั้นตอนการประกอบลิ้นเข้ากับปากเป่า
1.ประกอบปากเป่าเข้ากับคอปากเป่า
2.ประกอบลิ้นเข้ากับปากเป่า โดยให้ปากเป่าเหลื่อมออกมาเล็กน้อย ตามรูป
ยึดลิ้นด้วยที่รัดปากเป่าให้แน่น |
|
4.วิธีการเทียบเสียง |
เนื่องจากอุณหภูมิมีผลต่อระดับเสียง (Pitch) ดังนั้น ก่อนที่จะทำการเทียบเสียงให้อบอุ่น
เครื่องด้วยการเป่าลมเข้าไปในเครื่องสักพัก แล้วจึงทำการเทียบเสียง ตามรูป |
|
ซึ่งแต่ละเครื่องจะต่างกันดังนี้
1.Eb, Bb และ A Clarinet ให้ดึง Barrel (หมายเลข 2) ออกจากข้อต่อบน (หมายเลข 3)
2.Alto Clarinet ให้ดึงคอปากเป่า (หมายเลข 8) ออกจากตัวเครื่อง
3.Bass Clarinet ให้ดึงคอปากเป่าด้านบน |
5.การดูแลรักษาเครื่อง |
|
ทุกครั้งภายหลังจากการใช้เครื่อง ควรปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้
1.ถอดลิ้นออกจากปากเป่า เช็ดให้แห้ง เสร็จแล้วเก็บลิ้นเข้ากล่องให้เรียบร้อย
2.เช็ดทำความสะอาดปากเป่าให้แห้ง โดยใช้ผ้าหยอดทำความสะอาด (Cleaning Swab)
สอดเข้าทางด้านไม้ก๊อก ตามรูป 5-1
3.ถอดชิ้นส่วนต่าง ๆ ออกจากกันเสร็จแล้วทำความสะอาดภายในด้วยการสอดผ้าหยอดทำ
ทำความสะอาด เจ้าทางข้อต่อบน เช็ดให้แห้งโดยเฉพาะบริเวณข้อต่อที่เป็นไม้ก๊อก
รูป 5-2สำหรับชิ้นส่วนอื่นก็ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกัน
4.ซับความชื้นออกจากนวม ด้วยการนำกระดาษซับนวม (Cleaning Paper)
สอดเข้าระหว่างรูเสียงกับนวม แล้วกดแป้นหรือ กระเดื่องของนวมนั้นหลาย ๆ
ครั้งจนนวมแห้ง
5.เช็ดทำความสะอาดภายนอกด้วยผ้า Polishing cloth, แต่ถ้ากระเดื่องสกปรกมากก็ให้ใช้
ผ้าชุบน้ำยา Silver Polish ทำการขัดคราบสกปรกออก แต่ไม่ควรใช้น้ำยาขัดเงินทำ
ความสะอาดผิวไม้ สำหรับบริเวณที่ผ้าเข้าไม่ถึง และบริเวณรูเสียง ให้ใช้ลวดสักหลาด
(Tone hole cleaner) ทำความสะอาด ตามรูป 5-3
6.นำผ้าหยอดทำความสะอาดมาชุบน้ำมันรักษาเนื้อไม้ (Bore Oil) เพียงเล็กน้อยแล้วสอด
เข้าไปในเครื่องหลาย ๆ ครั้ง ระวังอย่าให้น้ำมันเปื้อนนวม เพราะจะทำให้นวมแห้งและ
แข็ง น้ำมันรักษาเนื้อไม้จะป้องกันไม่ให้ไม้เกิดการแตกร้าว หรือ บิดเบี้ยวได้ |
|